บทที่ 3 3P ก็ 3P สิว่ะ!!
.
.
.
Beauty Part
“อีห่าน!! กว่าจะมาได้นะมึง!” ตอนนี้บิ้วตี้กำลังยืนเท้าสะเอว ปั้นหน้ายักษ์อยู่หน้าคลินิกของคุณหมอผู้มาดแมนน่าซั่ม! เอ้ย แฮนด์ซั่ม! โดยที่ข้างๆ ตัวนั้นก็มีคุณหมอคนที่ว่า ยืนรอนิ่งๆ อยู่เช่นกัน
ตอนนี้เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว ซึ่งเลยเวลาปิดร้านของคุณหมอไปตั้ง 1 ชั่วโมง และสาเหตุที่ยังคงยืนรออยู่ไม่หนีหายไปไหนเป็นเพราะเขายังไม่ได้เงินค่ารักษาอีกครึ่งหนึ่งเลยน่ะสิ!!! (แม้ว่าความจริงแล้วจะเป็นเงินค่าตัวที่ถูกลวนลามก็ตาม)
“น่า จะเที่ยวทั้งทีก็ขอสวยหน่อยสิเพื่อน” เพราะคำพูดนั้นทำให้บิ้วตี้ชะงัก กวาดสายตามองเพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า และพบว่าวันนี้อีเดียร์จัดหนักจัดเต็ม จนคนมองได้แต่งุนงง
“มึงจะไปไหนของมึง”
“เอ๊า ก็จะไปเที่ยวไง เป็นไง สวยแซ่บไหมมึง” พูดพร้อมกับหมุนตัวยิ้มร่า แสดงออกถึงความกระดี๊กระด๊าสุดๆ บิ้วตี้กะพริบตาปริบๆ ด้วยความงุนงง ก่อนจะออกปากถามอีกหนด้วยความไม่แน่ใจ
“มึงจะไปเที่ยวที่ไหนน่ะ?”
“ไปผับสิมึง ป้ะๆๆ ขึ้นรถๆ” ว่าพร้อมกับดุนดันหลังเพื่อนสาวให้เดินไปที่รถ บิ้วตี้จึงเดินตามแรงดันของเพื่อนด้วยสติที่ยังไม่เต็มร้อยเท่าไหร่นัก
ส่วนตัวเองนั้นขยับเท้าก้าวเดินเข้าไปหาคุณหมอหน้าหล่อที่ยืนรอนิ่งๆ ก่อนจะเอนตัวซบอกอย่างออดอ้อน เงยหน้าขึ้นร้องบอกพร้อมกับใช้นิ้วมือสะกิดเขี่ยแผ่นอกของคนเป็นหมอไปพลาง มืออีกข้างตวัดไปโอบรอบเอวอย่างถือวิสาสะ
“คุณหมอ ไปดื่มกับพวกเรานะ เดียร์เลี้ยงเองเลยยยย” คนเป็นหมอจับตะครุบมือของหญิงเทียมเอาไว้แน่น ก้มหน้าบอกในระยะประชิด
“ไม่เอาดีกว่าครับ พอดีหมอยังมีงานต้องทำ ขอบคุณที่ชวนนะครับ”
“แหมๆๆๆ หมอคะ ไปด้วยกันเถอะค่ะ ถือว่าตอบแทนที่หมอดูแลเพื่อนหนูวันนี้ไง นะ ไปด้วยกันนะ” พูดพร้อมกับใช้มือเล่นปูไต่ที่ด้านหน้า ขยับลงต่ำถึงหน้าท้องแกร่ง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้แต่น้อย จนมือเรียวนั้นแทบจะผลุบหายเข้าไปในกางเกง ส่วนมืออีกข้างที่โอบเอวก็ค่อยๆ ขยับต่ำลง จนตะปบเอาบั้นเอวทรงวีเชป ทำให้คนเป็นหมอสะดุ้งเฮือก มือจับคว้าหมับ! ทั้งด้านหน้าและด้านหลังด้วยความหวาดเสียว กดสายตามองคนที่กำลังทำตัวราวกับไร้กระดูก เป็นลูกแมวน้อยแสนน่ารัก
คุณจะมาลวนลามหมอทั้งหน้าทั้งหลังแบบนี้ไม่ได้นะ!!!
คนเป็นหมอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“หมอไปไม่ได้ครับ วันนี้หมอไม่ว่าง” ตาของเดียร์กระตุกไปเล็กน้อย แววกรุ่นโกรธปรากฏขึ้นจางๆ ก่อนจะงัดไม้เด็ดออกมาใช้หลอกล่อ
“ถ้าหมอไม่ไป เงินที่ค้างไว้ครึ่งหนึ่งเดียร์ก็ไม่จ่าย!”
“อ๊ะ เหมือนว่าเพื่อนจะส่งข้อความมายกเลิกนัดพอดีเลยครับ ผมว่างแล้วล่ะ” พูดแล้วฉีกยิ้มหวาน ทั้งๆ ที่นัยน์ตาเหี้ยมเกรียม แต่เดียร์ก็ทำทีไม่สนใจ ฉุดกระชากลากถูคนเป็นหมอให้เดินตามไปขึ้นรถ โดยที่มีตัวเองเป็นคนขับ บิ้วตี้นั่งหน้า และหมอนั่งหลัง เดียร์หันไปมองเพื่อนสาวนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยปากบอก
“อีบิ้ว มึงไปนั่งหลัง หมอขาาาา ขยับมานั่งหน้าเร๊ววววว” ไล่เพื่อนด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในขณะที่ใช้เสียงสองกับผู้! อีเดียร์! มึงมันอีแรด!!
บิ้วตี้หันไปส่งสายตามองแรงให้เพื่อน ก่อนจะนั่งกอดอกแน่น ยังไงก็ไม่ยอมลงเด็ดขาด ยังไงก็ไม่ลง!!
“กูไม่ลง!!”
“มึงจะลงหรือไม่ลง!!”
“ไม่ลง!!”
“อ๊ะอีนี่! กูจะเอาผู้ไปกิน! มึงนี่มารคอหอยกูจัง!” เดียร์พูดด้วยความหงุดหงิด ถลึงตามองจ้องเพื่อนของตนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“มึ๊งงงงงงง อีเพื่อนเลววว มึงจะเอาหมอไปกินไม่ได้!!”
“ทำไมกูจะเอาหมอไปกินไม่ได้!!”
“มึงต้องแบ่งกูสิอีชะนีน้อย!! 3P กูก็ไม่อาย หรือมึงอาย!”
“ไม่! กูไม่อาย! 3P ก็ 3P สิว่ะ!!” เพียงเท่านั้นรอยยิ้มก็จุดประกายขึ้นที่มุมปากของบิ้วตี้ หรี่ตามองเพื่อนด้วยความชอบใจ
“ดีล”
“ดีล” สองสาวยกยิ้ม ส่งสายตาให้กัน พร้อมกับการแท็กมือ พากันหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ
“อ่อ.... หมอว่า หมอไม่ไปแล้วดีกว่า” คนเป็นหมอพูดขึ้นอย่างหวาดๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ หากแต่สองสาวประสานเสียงกันดังลั่นรถ
“ไม่ได้!! /ไม่ได้!!” คนเป็นหมอชะงักกึก เห็นแววตาที่บ่งบอกชัดเจนทำให้กลืนน้ำลายดังเอื๊อก
ลงสิหมอ มึงลงสิ มึงลงเมื่อไหร่กูจับกินตับเมื่อนั้น
เมื่อได้เห็นสายตา คนเป็นหมอก็หดมือกลับอย่างช้าๆ แสดงสีหน้าร่ำไห้ พร้อมกรีดร้องลั่นอยู่ในใจ ทำไมกูต้องมาเจออะไรอย่างนี้ด้วย!
บิ้วตี้กับเดียร์ยิ้มพึงพอใจที่เห็นท่าทีคนเป็นหมอ จึงหันกลับไปสนใจถนนเบื้องหน้า แล้วเริ่มต้นขับรถออกจากลานจอดรถ
“พี่หมอชื่อว่าอะไรหรอคะ”
“อ่อ ปริญ ครับ” สัตวแพทย์หนุ่มกัดฟันบอก เดียร์พยักหน้าหงึกหงักเชิงรับรู้ ก่อนจะถามคำถามต่อไปทันที
“พี่หมอ ชอบเหล้าหรือเบียร์มากกว่ากันคะ”
“เหล้าครับ” คนเป็นหมอก็ไม่อิดออด ตอบรับอย่างว่าง่าย สายตาล่อกแล่ก หาทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง ในขณะที่บิ้วตี้กับเดียร์พูดคุยหยอกล้อกันไปตลอดทางพร้อมกับหมอหมาที่ทำหน้าตากล้ำกลืนเหลือจะทน เพราะอะไรน่ะหรอ? สองสาวเอาแต่พูดแทะโลมเขาไม่หยุดน่ะสิ!!
“อ่า คนเต็มเลย” เดียร์พูดขึ้นเบาๆ ขณะที่มองเข้าไปในร้านผับกึ่งบาร์ตรงหน้า ในขณะที่บิ้วตี้เหล่สายตามองอย่างเหยียดๆ ก่อนจะเอ่ยวาจาแหน็บแนมออกไป
“ทำมาเป็นบ่น แต่เรดาร์บนหัวมึงเนี้ยสั่นระริกเชียวนะอีชะนี” เดียร์ยกยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินไปควงแขนของหมอปริญพยายามเบียดนมที่เต็มไปด้วยฟองน้ำกับลำแขนแกร่ง พูดจาหยอกเย้า
“วันนี้กูมีผู้มาด้วยแล้ว คนอื่นกูไม่แลหร๊อกกกก” เดียร์พูดพร้อมกับซบใบหน้าลงที่อกของคุณหมอผู้สุภาพ ก่อนจะรีบผลักออกอย่างรุนแรงจนคนเป็นหมอตกใจเล็กน้อย
“ผู้ชาย!!!!” เดียร์ส่งเสียงกรีดร้องวี๊ดว๊าย แล้ววิ่งเข้าผับไปทันที ทิ้งให้คนสองคนที่ถูกลากมามองตามอย่างงุนงง ก่อนจะได้คำตอบในไม่ช้า เมื่อเพื่อนสาวตัวดีนั้นเข้าไปเต้นนัวเนียกับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง ในขณะที่คนๆ นั้นก็พยายามผลักไสหญิงสาวที่ดูยังไงก็รู้ว่าไม่ใช่หญิงแท้ออกจากตัวอย่างรังเกียจ
“เฮ้อ” บิ้วตี้ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะบ่นตามมาอีกที
“ไปไม่ชวนกูอีเพื่อนชั่วววววววว” ว่าจบก็แล่นฉิวตามเพื่อนสาวคนสนิท ไปเต้น ไปลูบ ไปไล้ ตามเนื้อตัวของชายผู้โชคร้ายคนนั้น ทิ้งหมอปริญยืนมองตาปริบๆ พร้อมกับคิดอยู่ในใจว่า.....
พาเขามาด้วยทำไม!!!
คนเป็นหมอแทบร่ำไห้เมื่อถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง เอาเถอะ จะอยากไปไหนก็ไป อยากเต้นกับใครก็เต้น แต่ช่วยจ่ายเงินค่ารักษาให้ทีจะได้ไหม!!! แล้วแบบนี้หมอจะกลับบ้านยังไง! ถอดถอนใจอย่างสิ้นหวัง ตั้งใจจะหันหลังกลับ แต่แล้วก็ต้องเหลียวสายตามามองสองสาวอีกครั้งที่กำลังเลื้อยมือเข้าไปในเสื้อของผู้ชายคนใหม่ ในขณะที่อีกคนพยายามเอาตัวถูไถกับผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
“เฮ้ออออ กูไม่แปลกใจเลยถ้าจะโดนต่อยกลับมาอีก” พูดพร้อมส่ายหัวไปพลาง สาวเท้าเดินเข้าร้านที่ว่า หามุมๆ หนึ่งนั่งลงแล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่ม สายตาก็คอยมองจ้องสองสาวเป็นระยะที่กำสนุกอยู่ท่ามกลางแสงสีเสียง เต้นไปเต้นมาผ้าแทบจะหลุดอยู่รอมร่อ และมันคงจะน่าหวาดเสียวไม่น้อยหากสองสาวนั้นมีนมจริงๆ ไม่ใช่หน้าอกแบนๆ มาพร้อมด้วยกล้ามนิดๆ แลดูน่ากลัว
หมอปริญนั่งอยู่เพียงลำพังไม่นานนัก ก็มีหญิงสาวมาสานสัมพันธ์ด้วย แต่ก็ถูกเดียร์ไล่ออกไปตลอด แสดงอาการหึงหวงชัดเจน จนท้ายที่สุดแล้วก็มีเพียงหมอปริญนั่งอยู่เพียงผู้เดียว ส่วนสองสาวนั้นไปไล่จับ ไล่ควัก ไล่ล้วงของผู้ชายแต่ละคนอย่างสนุกสนาน ทำให้หมอปริญรับรู้ว่าตัวเองไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ถูกวัดขนาดน้องชาย น่ากลัวที่บางคนหนักหนากว่าเขาเยอะ เพราะสาวเจ้าไม่ได้แค่จับอย่างเดียว แต่ยังมีการบดคลึงเพื่อสำรวจอีกด้วย
เอาล่ะ ถ้าโดนต่อยหน้ามาถึงจะเป็นหมอหมา แต่จะไม่รักษาให้จริงๆ ด้วย!!
ในขณะที่นั่งคิดอะไรคนเดียวไปเรื่อยเปื่อย สายตาคมกล้าของคุณหมอหมาตาตี่ก็เริ่มหรี่ขึ้นอีกนิดจนแทบจะปกปิดลูกตาดำ เหตุก็เพราะว่าคนที่มีชื่อว่าเดียร์นั้นถูกกระชากแขนออกจากตัวผู้ชายคนหนึ่งอย่างรุนแรง แล้วก็เริ่มสบถคำด่าทอออกมามากมาย ในขณะที่เพื่อนสาวอีกคนมีชื่อว่าบิ้วตี้พยายามยื้อยุดแขนของผู้ชายคนนั้นไว้ ทำให้หมอปริญเริ่มนั่งไม่ติดที่และผุดตัวลุกขึ้นมองดูสถานการณ์
“มึงอยากตายรึไงห๊ะ!” เสียงตะโกนลั่นของชายคนนั้นร้องดังขึ้น ทำให้หมอปริญรีบสาวเท้าขยับก้าวเข้าไปหา
“มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร! มึงกล้าดียังไงมาลวนลามกู!!” เสียงเหี้ยมของชายคนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่มีเสียงแว๊ดๆ ของเดียร์ดังตามมาติดๆ
“ตัวมึงเองยังไม่รู้ แล้วกูจะรู้กับมึงไหม!”
“อีนี่!!” ชายคนนั้นง้างมือขึ้นสูง หมายจะยกขึ้นตบหญิงเทียมตรงหน้าให้สาสมกับสิ่งที่ทำ เดียร์หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ในขณะที่บิ้วตี้ขยับเท้าเข้ามาขวางเอาไว้ สองมือจับแน่นลงที่ข้อมือของชายคนนั้น
“น่า พี่ขา เพื่อนหนูเมาแล้วชอบลวนลามไปทั่วแบบนี้แหละ อย่าไปถือสามันเลยนะคะ” ว่าพร้อมกับการกดคลึงหัวมือแม่ลงที่ผิวเนื้อของชายคนนั้น
ผิวเรียบลื่นจังโว้ยยยยยยย หู้ยๆๆๆๆ เห็นเส้นเลือดด้วยง้ะ ใจบาง~~~
บิ้วตี้ได้แต่ร่ำร้องอยู่ภายในใจ เนื้อตัวเต้นสั่นระริก นึกชอบสัมผัสที่นิ้วมือรู้สึกได้ในตอนนี้ จนเกิดประกายแวววาวขึ้นในดวงตา ทำให้ชายตรงหน้าชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่ใบหน้าจะมืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ
“อย่ามาโดนตัวกู!!”
“ว๊ายยยยยยยย” พูดว่าพร้อมสะบัดหญิงสาวตรงหน้าให้ออกไปให้พ้นทาง ส่วนบิ้วตี้นั้นหวีดร้องออกมาเสียงดังลั่น เพราะชายคนนั้นไม่ออมแรงแม้แต่น้อย ทำให้ลำตัวของบิ้วตี้กระแทกเข้ากับขอบโต๊ะในบริเวณใกล้เคียง และแรงนั้นมีมากจนถึงกับขนาดที่ทำให้โต๊ะล้มลง แขกเหรื่อต่างลุกฮือ ยกแก้วหนีกันพัลวัน
“อย่าอยู่เลยมึง!” ชายคนเดิมพูด พร้อมกับตั้งท่าจะเข้าไปหาเดียร์อีกรอบ ในตอนที่ยกมือขึ้น หมายจะเอามือฟาดหน้าของหญิงเทียมที่กำลังทำหน้าตาตื่น เมื่อเดียร์เห็นว่าฝ่ามือนั้นกำลังจะกระทบกับผิวแก้ม ก็หลับตาปี๋รอรับความเจ็บที่กำลังจะได้รับ
หมับ!
“.......”
“.......”
“.......”
“.......” เพราะความเงียบที่เกิดขึ้นรายล้อมตัว และไม่มีแม้แต่แรงลมที่สัมผัสโดนผิวกาย ทำให้เดียร์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเป็นแผ่นหลังกว้างของผู้ชายคนหนึ่งที่นำตัวเองมาบดบังรับแรงปะทะเอาไว้ให้ ข้อมือของชายคนนั้นก็ถูกจับคว้าเอาไว้ด้วยท่อนแขนแกร่งของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตวแพทย์
“พี่หมอ....” เดียร์ร้องครางด้วยความประทับใจ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด พี่หมอออออ หล่อคร้าาาาา แอร๊ยยยยยยยย” เสียงหวีดร้องแปดหลอดของบิ้วตี้ เรียกให้คนโดยรอบสนใจหันไปมอง เดียร์ถลึงตาใส่เพื่อนสาวก่อนจะตะโกนเสียงดังลั่น
“อิเพื่อนเวร!! แย่งซีนกู!!!” บิ้วตี้นั่งเชิดหน้าอยู่กับพื้น โนสนโนแคร์ใดๆ ตอบกลับไปสวยๆ
“งานนี้กูต้องเด่นค่ะอีเพื่อน~~~” เดียร์ถอนหายใจรุนแรง แล้วจึงกลับมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้า พบว่าหมอปริญและชายคนนั้นก็หันกลับมามองหน้ากันแล้วเช่นกัน
“ปล่อยกู” ชายคนนั้นกัดฟันพูดเสียงเข้ม หมอปริญจึงปล่อยมือออกอย่างช้าๆ พร้อมยกมือขึ้นเสมอไหล่ในท่าทางยอมแพ้ แล้วเอ่ยปากพูดก่อน
“ต้องขอโทษแทนสองสาวด้วยครับ พวกเธอแค่หยอกเล่นสนุกๆ”
“แต่กูไม่สนุก!!” ชายคนนั้นตะคอกออกมาเสียงดัง ในขณะที่เดียร์ปรี่เข้าไปกอดแขนของคุณหมอเอาไว้แน่น
“พี่หมอ! ไปขอโทษมันทำไม!! มันลวนลามเดียร์นะ!!” หมอปริญปรายตามองเล็กน้อย แล้วขมวดคิ้วหมุน
“แต่หมอว่าคุณมากกว่ามั้งที่ไปลวนลามเขา”
“ก็จริง.... เฮ้ย! ไม่จริง! พี่หมอต้องจัดการให้เดียร์นะ เขาลวนลามเดียร์!” คนเป็นหมอส่ายหน้าไปมา ในขณะที่หญิงสาวกระทืบเท้าเร้าๆ อย่างขัดใจ สัตวแพทย์หนุ่มหันหน้าไปบอกชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม
“ต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ ที่เธอไปสร้างความวุ่นวายให้” ว่าพร้อมผงกหัว หันหลังกลับ เตรียมที่จะเดินจากไป
“เหอะ คราวหลังก็ดูแลเมียมึงดีๆ ร่านฉิบหาย” ชายคนนั้นหันไปพูดกับเพื่อนในท้ายประโยค หากแต่ทำให้คนเป็นหมอชะงักกึก หันกลับไปมองช้าๆ
“เมื่อกี้ว่าอะไรนะครับ?” พูดด้วยถ้อยคำสุภาพ แต่น้ำเสียงเย็นเหยียบ จนเดียร์เผลอปล่อยมือออกจากแขนของคุณหมอด้วยความหวาดกลัว
“อะไรของมึง?” ชายคนนั้นถามกลับมา ทำให้หมอปริญเอ่ยย้ำอีกครั้ง
“เมื่อกี้..... มึงพูดว่าไงนะ?” ว่าพร้อมกับสาวเท้าเดินเข้าไปหาด้วยท่าทีคุกคาม
“ก็บอกว่าให้ดูแลเมียมึงดีๆ ไงว่ะ” อีกฝ่ายทำหน้างุนงง
“เขาไม่ใช่เมียกู! กูไม่มีทางเอาเขามาเป็นเมียหรอก!”
ผลั๊วะ!!!
หมัดหนักๆ ต่อยเข้าที่ปากของชายคนนั้น ท่ามกลางความตกใจของคนบริเวณด้วยรอบ เสียงหวีดร้องมาพร้อมกับเสียงดนตรีสุดเร้าใจที่นักร้องบนเวทีปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ คนเป็นหมอยำเท้าใส่รัวไม่มียั้งพร้อมกับตะโกนก่นด่าไปด้วย พวกเพื่อนๆ ของผู้ชายคนนั้นก็เข้าไปช่วยเพื่อนจนเกิดเป็นเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย
“มึง ไอ้เหี้ย! ขนาดมึงยังไม่เอา แล้วคิดว่ากูจะเอารึไง!!”
“โอ้ย! เชี่ย! อะไรของมึงว่ะ! โอ้ย!”
“กูโมโห! ไอ้ห่า! มึงตาต่ำเกินไปแล้ว! คนอย่างกูหรอจะเอาผู้หญิงพันธุ์นี้มาเป็นเมีย!”
“โอ้ย! เชี่ยอะไรของมึงเนี้ย! โอ้ย!” ในขณะที่หมอปริญรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง ตะโกนด่าคนที่พูดจาไม่เข้าหูอย่างรุนแรง โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองนั้นทำร้ายจิตใจคนฟังมากขนาดไหน บิ้วตี้ที่นั่งอยู่กับพื้น ค่อยๆ ยันตัวขึ้นช้าๆ สืบสาวเท้าเข้าไปหาเพื่อนสนิทของตัวเอง ใช้แขนกอดไหล่เอาไว้หลวมๆ แล้วเอ่ยปากพูดปลอบใจ
“ไม่เป็นไรมึง อย่าไปฟัง” เดียร์กัดริมฝีปากน้อยๆ แล้วค่อยหันมาส่งยิ้มให้เหมือนอย่างที่เคยเป็น
“ไม่เป็นไรมึง กูเจอจนชินแล้ว” พูดพร้อมกับมองไปที่คนตรงหน้า สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันไปพยักหน้ากับเพื่อนสาว ทำให้ทั้งเดียร์และบิ้วตี้ พากันออกจากผับไปอย่างเงียบๆ ทิ้งคนที่กำลังบันดาลโทสะไว้ข้างหลัง
บิ้วตี้พยายามหาเรื่องต่างๆ มาพูดคุยให้เพื่อนคลายความเศร้าลง ทั้งสองพากันเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงรถของตัวเอง สองสาวพากันเปิดประตูรถ แล้วขึ้นไปนั่งเพื่อมุ่งตรงกลับบ้าน อะไรบางอย่างที่ขาดหายไปทำให้บิ้วตี้ชะงัก ก่อนจะขยับมือวุ่นวายตบตามเนื้อตัวของตัวเอง
“เป็นอะไรมึง” เดียร์ถามขณะที่เริ่มขยับรถออกอย่างช้าๆ
“เดี๋ยวๆๆๆๆ มึงจอดแป๊บ!” ว่าพร้อมกับขยับตัวยุกยิกอีกหน แล้วหันมาเสียงอ่อยใส่เพื่อนที่กำลังนั่งมองอยู่
“กูลืมกระเป๋าไว้ในร้านอ่า... รอแป๊บน๊าาาาาา” ว่าจบก็เปิดประตู กระโดดลงจากรถไป เดียร์ส่ายหัวเบาๆ ให้กับท่าทางของเพื่อนก่อนจะพูดบ่นออกมาอย่างเอือมระอา
“อิเวง หน้าตาก็สวยหรอ แต่ท่าเดินแม่ง ขาถ่างฉิบหาย!” ว่าด้วยรอยยิ้มขบขัน เมื่อมองเห็นเพื่อที่วิ่งขาถ่างกลับไปทิศทางเดิม อาจจะเป็นเพราะพึ่งจะโดนเตะผ่าหมากมา ทำให้เพื่อนสาวที่รักสวยรักงามเดินขาถ่างได้ขนาดนั้น คิดพลางส่ายหัวเบาๆ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นระหว่างรอไปพลาง
My Dear ---- โพสต์เมื่อ 1 นาทีก่อน
ขอแค่สักคนที่........
บิ้วตี้รีบร้อนวิ่งกลับมาทางเก่า เพราะกลัวว่ากระเป๋าของตัวเองจะหาย เป็นเพราะโดนผลักล้มเมื่อกี้แน่ๆ ทำให้สายกระเป๋าขาดจนหลุดหายไปแบบนี้ ทันทีที่เข้ามาในผับอีกหน ก็สอดส่ายสายตาหากระเป๋าของตัวเอง จึงทำให้เห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว เนื่องจากมีพนักงานผู้ชายของร้านที่แต่งตัวเหมือนการ์ดผู้ควบคุมดูแลเข้าชาร์จคนทั้งสองที่ตะลุมบอนกันเมื่อครู่ และเหมือนว่าเจ้าของร้านกำลังทำการไกล่เกลี่ยกันอยู่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่บิ้วตี้สนใจ
สองขาของสาวประเภทสองเดินเยื้องย่างเข้าไปใกล้กับบริเวณที่ตัวเองล้มลงเมื่อครู่ แล้วก้มๆ เงยๆ หากระเป๋าของตัวเอง จนกระทั่งเห็นกระเป๋าสีชมพู ขนฟูนุ่มนิ่มนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้น สายโซ่สีทองขาดออกจากกัน ทำให้หญิงสาวก้มตัวลงหยิบคว้ากระเป๋าขอตัวเองออกมาดู
บิ้วตี้ตรวจสอบความเสียหาย พบว่าไม่มีอะไรบุบสลายไปแม้แต่น้อย จึงพาตัวเองออกจากร้านไปอีกหน โดยที่มีสายตาของคนๆ หนึ่งตามติดมาด้วยโดยไม่รู้ตัว
ตึก ตึก ตึก
ตึก ตึก ตึก
เสียงย่ำเท้าเป็นจังหวะดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเปล่าเปลี่ยวของบริเวณโดยรอบ ทำให้บิ้วตี้กอดกระเป๋าแน่นขึ้นด้วยความขลาดกลัว สายตาเริ่มล่อกแล่กมองไปทั่วๆ อย่างวิตกกังวล
ตึก ตึก ตึก
ตึก ตึก ตึก
หญิงสาวชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน เมื่อเสียงย่ำเท้ามีมากกว่าหนึ่ง เหลียวมองข้างหลังอย่างไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่นัก เห็นเพียงความว่างเปล่าไร้ผู้คน จึงหันกลับมามองทางอีกครั้ง แล้วเริ่มต้นก้าวเดินอีกหน
ตึก ตึก ตึก
ตึก ตึก ตึก
ในคราวนี้แน่นอนแล้วว่ามีคนตามมาจริงๆ ทำให้หญิงสาวหยุดชะงักยืนนิ่งอยู่กับที่ ตามมาติดๆ ด้วยเงาดำทะมึนที่พาดผ่านจากทางด้านหลัง บดบังเงาของตนไปจนสิ้น ทำให้บิ้วตี้ค่อยๆ หมุนกายอย่างช้าๆ จนกระทั่งได้พบกับคนๆ หนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าอย่างไร้สุ้มเสียง ทำให้ผงะถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
“มะ มะ มีอะไรคะ?” เอ่ยถามออกไปเสียงสั่นพร่า เมื่อชายตรงหน้ามีรูปร่างสูงแต่ผอมกะหร่อง ใบหน้าเครียดเกร็งทรุดโทรม รอบปากมีหนวดเครายาวเฟื้อยอย่างคนที่ขาดการดูแล ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากการแสยะยิ้มเหี้ยม อย่างไม่ทันรู้ตัว กระเป๋าสีชมพูที่กอดอยู่ในอ้อมแขนก็ถูกดึงกระชากอย่างรุนแรง ทำให้บิ้วตี้ส่งเสียงหวีดร้องออกมาดังลั่น
“กรี้ดดดดดดดด”
เพี้ยะ!
ใบหน้าสวยหันสะบัดไปตามแรงตบ แต่มือยังคงยื้อกระเป๋าของตัวเองเอาไว้แน่น
“ปล่อยนะไอ้โจรชั่ว!!! นี่มันเงินฉันนะ!!” พูดพร้อมกับพยายามยื้อกระเป๋าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยดิว่ะ!!” ชายคนนั้นตะคอกออกมา ในขณะที่เพิ่มแรงตบเข้าที่ใบหน้าอีกหน หากแต่บิ้วตี้ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยมือ จะปล่อยได้ยังไง! ในกระเป๋ามีเงินของที่ร้านอยู่นะ!!!
“มึงนั่นแหละต้องปล่อย!!” บิ้วตี้ตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด น้ำเสียงทุ้มห้าวแตกต่างกับหน้าตาของตัวเอง พยายามดึงกระชากกระเป๋าให้หลุดจากการเกาะกุมของโจรตรงหน้า ชายตรงหน้ามองซ้ายมองขวา หวาดกลัวว่าคนจะแห่กันมาดู จึงยกเท้าขึ้นสูงแล้วส่งแรงถีบเต็มแรง
ผลั๊ก!!!
“โอ้ย!!” บิ้วตี้ทรุดตัวลงกับพื้นในทันที ใบหน้าแสดงความเจ็บปวดเหลือคณา สองมือกุมเป้าหน้าดำคล้ำเขียว
ฮือออออ วันนี้มันเป็นอะไรกับไข่กู!! ฮืออออออออ
เพราะความเจ็บจุกที่รุนแรง ทำให้ร้องไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลพรากอย่างกับเขื่อนแตก วันนี้ใจกลางความเป็นชายถูกทำร้ายถึงสองหน เจ็บเกินจะกล่าว มีเพียงหยาดน้ำตาที่ไหลรินและใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดพร้อมกับหยาดเหงื่อที่โซมกาย
“ฮึก อะ อะ อี.... โจร.... เหี้ย....” พูดได้เพียงแค่นั้นก็โน้มตัวไปข้างหน้า หน้าผากแนบกับพื้นดิน คุดคู้งอตัวด้วยความเจ็บหน่วงที่รุนแรงเกินจะทนไหว ก่อนจะได้ยินเสียงดังขึ้นจากข้างหน้า ทำให้ต้องหันหน้าไปมองตามทิศทางของเสียงนั้น
“เฮ้ย!!!”
